เป็นที่ยอมรับว่าเวลาไม่เคยหวนกลับ อายุก็เช่นกัน เมื่อประเทศไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุมากขึ้น การสร้างอาชีพใหม่ในวัยเกษียณนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะอาชีพเกษตร หากไม่มีประสบการณ์หรือรากเหง้าในอาชีพเกษตรมาเลย ย่อมต้องใช้เวลาศึกษา ทดลองผิดถูก จึงจะได้ผลบรรลุเป้าหมาย ที่สำคัญต้องมีใจรักด้วยถึงจะทำได้
นายสัตวแพทย์ศุภมิตร พานชวบุษป์ หรือหมอตุ้ม เป็นอีกท่านหนึ่งที่มีหน้าที่การงานดี ดูแลรักษาสุขภาพสัตว์เลี้ยง เปิดคลินิกรักษาสัตว์ ก่อนตัดสินใจมาซื้อที่ดินและใช้ชีวิตวัยเกษียณ ด้วยอาชีพทำเกษตร ที่จังหวัดสกลนคร โดยเลือกปลูกพืชหลากหลายชนิดโดยเลือกปลูกพืชแต่ละชนิดตามสภาพพื้นที่เป็นหลัก อาทิ ปลูกมันสำปะหลัง ข้าวนาปี ในช่วงฤดูฝน เพราะไม่มีระบบน้ำ เป็นต้น และเมื่อปี 2563 ได้ลงทุนทดลองปลูกโกโก้ ด้วยการส่งเสริมของบริษัทเอกชน จำนวน 1 ไร่ เป็นสายพันธุ์ชุมพร 2 กำลังทยอยให้ผลผลิต
คุณหมอตุ้มให้ข้อมูลว่าก่อนปลูกโกโก้ ได้ลงทุนปลูกมันสำปะหลังพันธุ์ ห้วยบง 80 พื้นที่ จำนวน 10 ไร่ และได้ใช้ปุ๋ยยาเคมี อินทรีย์ทั่ว ไปตามท้องตลาดโดยเฉพาะปุ๋ยมูลสัตว์อัดเม็ด หรือปุ๋ยอินทรีย์ราคาถูกก็ซื้อมาใช้ แล้วไม่ค่อยตอบโจทย์เท่าไหร่ การเจริญเติบโตของมันสำปะหลัง และการให้ผลผลิตน้อย คือ 3 ตัน/ไร่ เมื่อจะถึงฤดูกาลเพาะปลูกใหม่อีกครั้งจึงได้ทดลองใช้ปุ๋ยอินทรีย์โวก้า ของ บริษัท เกษตรนำโชค จำกัด กับไร่มันสำปะหลัง จากการแนะนำของอาจาย์วิชุอร จากนั้นได้นำปุ๋ยอินทรีย์โวก้า จำนวน 50 กิโลกรัม หรือ 2 กระสอบ /ไร่ มาหว่านปูพรมไปพร้อมกับการตีดิน แล้วยกร่องปลูกมันสำปะหลัง ระหว่างช่วงที่มันสำปะหลังกำลังเจริญเติบโต อายุ 1-4 เดือน จะใช้ super silicon Voga หรือ ซิลิคอนผงผสมน้ำฉีดพ่นทางใบ 1-2 ครั้ง เป็นซิลิคอนที่มีปริมาณการแตกตัวและพืชสามารถนำไปใช้ได้สูงถึง 5000 ppm
“พอเกษียณก็มาปลูกพืชแล้วใช้ปุ๋ยอินทรีย์โวก้า มาหลายปีเป็นปุ๋ยอินทรีย์ที่ได้ผลดีเยี่ยม ไม่เหมือนอินทรีย์ทั่วไป ผมเปิดใจใช้เพราะอาจารย์วิชุอรเป็นคนแนะนำ ก่อนหน้านี้ ผมเคยใช้ ปุ๋ยอินทรีย์โวก้า กับการปลูกมันสำปะหลังของผมเอง เป็นแปลงตัวอย่างให้เกษตรกรในพื้น ที่ได้มาเรียนรู้รู้ว่าใช้ปุ๋ยอินทรีย์โวก้าช่วยลดต้นทุน เพิ่มผลผลิตยังไง ซึ่งเลือกใช้สายพันธ์ุห้วยบง 80 ก็ใช้ปุ๋ยโวก้าปูพื้น หรือรองพื้น พร้อมกับตีดินจำนวน 50 กิโลกรัมต่อไร่หรือ 2 กระสอบแล้ว จากนั้นยกร่องปลูกมันสำปะหลัง เราก็จะตัดท่อนมันเสียบได้เลย ไม่ได้แช่น้ำยาเร่งราก เราใส่ปุ๋ยอินทรีย์โวก้าไปพร้อมกับตีดิน ปุ๋ยตัวนี้จ ะอยู่ในดินแล้วเวลาปลูกพืชพร้อมปลดปล่อยธาตุอาหารออกมาได้เลย ปุ๋ยอินทรีย์โวก้าจะพิเศษหน่อยเพราะสามารถปลดปล่อยธาตุได้ทันทีไม่เหมือนปุ๋ยอินทรีย์ตัวอื่นที่หมักทิ้ง ไว้เป็นเดือน ซึ่ง แปลงมันสำปะหลังผม ใช้ปุ๋ยเม็ดอินทรีย์โวก้ารองพื้น และใช้ super voga เสริม ฉีดพ่นทางใบ 1-2 ครั้ง ซึ่งเราปลูกมันสำปะหลังแล้วไม่ได้ใส่ปุ๋ยเคมี และฉีดยาอื่นๆอีกเลย ต้นทุนต่ำ เมื่อเทียบกับแปลงมันสำปะหลังที่ใช้ปุ๋ยเคมีต่างกันเยอะเลย ตอนปลูก ไม่ได้แช่ท่อนพันธ์ุเลย เพราะปุ๋ยอินทรีย์โวก้าจะช่วยให้รากงอกเยอะ ลำต้นแข็งแรง แมลง ไม่รบกวน ไม่เป็นเชื้อราและโรคใบด่าง สุ่มดูน้ำ หนัก 18-25 กก./ต้น ฝนหยุดตกก็จะเริ่มทยอยขุดไปขาย”คุณหมอตุ้มอธิบายถึงการใช้ปุ๋ยอินทรีย์โวก้ากับมันสำปะหลัง
นอกจากใช้ปุ๋ยโวก้ากับมันสำปะหลังแล้ว ยังได้ใช้กับนาข้าวด้วย ทั้งข้าวนาปี และข้าวนาปรัง โดยหว่านปุ๋ยอินทรีย์โวก้าในนาข้าวอายุ 20-30 วัน 50 กก./ไร่ และใส่อีกครั้งช่วงข้าวตั้งท้อง จำนวน 25-50 กิโลกรัม/ไร่ หรือจะผสมร่วมกับปุ๋ยเคมีก็ได้ผลดี แต่ที่สำคัญข้าวจะรากเยอะ แข็งแรง แตกกอดี ใบตั้งตรง ใบคม เมื่อลมพัดจะไม่ล้ม เมล็ดข้าวเต่ง และหอมมากขึ้น
อีกทั้งใช้ปุ๋ยอินทรีย์โวก้า กับการปลูกพริกแดงจินดา โดยใช้ปุ๋ยอินทรีย์โวก้า ผสม ร่วมกับ ซุปเปอร์โวก้าโปร คีโตพลัส อัตรา 25 กก./ 2 ซอง ใส่ช่วงรองก้นหลุมและใส่ทุกๆเดือน ทำให้ต้นพริกแข็งแรง ไม่เป็นใบหงิก และเชื้อรา ไม่เป็นโรคกุ้งแห้ง ซุปเปอร์โวก้าโปร คีโตพลัส เป็น สารธรรมชาติ ช่วยปกป้องพืชจากเชื้อรา และแบคทีเรีย ทั้ก่อให้เกิดโรคพืชชนิดต่าง ๆ เช่น โรครากเน่าโคนเน่า จากไฟทอปทอร่า โรคเหี่ยวจากเชื้อรา ฟูซาเรียม โรคโคนเน่าจาก เชื้อรา พิเทียม หรือ สโครโลเดียม รวมทัังโรคที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย เช่น โรคขอบใบแห้งในข้าว ฯลฯ
“ปกติหน้าฝนขั้วของพริกจะเน่าเร็ว เมื่อใช้ปุ๋ยโวก้า ร่วมกับ คีโตพลัส แล้วขั้ว พริกจะสดและ สามารถเก็บไว้ได้นานไม่เน่าง่าย น้ำหนักดีปกติ 1 ถุงแพค 10 กิโลกรัมต้องใส่พริกเต็มถุง แต่พริกที่ใช้ปุ๋ยอินทรีย์โวก้าบรรจุพริกไม่เต็มถุงก็ได้น้ำหนัก 10 กิโลกรัม ซึ่งพิสูจน์ได้ว่าการใช้ปุ๋ยอินทรีย์โวก้า สามารถเพิ่มน้ำหนักให้ผลผลิตได้” คุณหมอตุ้มกล่าวถึงการใช้ปุ๋ยกับการปลูกพริก
ส่วนกับสวนโกโก้ จำนวน 1 ไร่อายุ 2 ปี เริ่มทยอยให้ผลผลิตทุกๆ 2 สัปดาห์ ผลผลิตยังมี ปริมาณไม่เยอะ การตัดสินใจมาปลูกต้นโกโก้เพราะเห็นว่าเป็นพืชที่ปลูกครั้งเดียวอยู่ได้นาน โดยลงทุนซื้อต้นพันธุ์มาจากวิสาหกิจชุมชนบ้านปงจังหวัดน่าน ประมาณ 10,000 บาท แล้วมา ปลูกในระยะ 2.5 x 2.5 เมตร ช่วงระหว่างรอผลผลิตจากต้นโกโก้ ก็จะมีรายได้จากกล้วยซึ่งเป็นพืชพี่เลี้ยงไปก่อน เมื่อต้นโกโก้แข็งแรงดีและเติบโตได้ดีแล้ว ตัดต้นกล้วยออก สำหรับการใช้ปุ๋ยอินทรีย์โวก้า กับต้นโกโก้คุณหมอตุ้มบอกว่า “เราจะรองก้นหลุม คือเราจะขุดหลุม 30 ซม รองก้นหลุมด้วยปุ๋ยอินทรีย์โวก้า ประมาณ 2-3 กำมือ/หลุม กลบแล้วเราเอาต้นโกโก้วาง พรวนดินขึ้นมาเหมือนกับปลูกต้นทุเรียน พอต้นโกโก้อายุได้ 3 เดือนก็ใส่ปุ๋ยอินทรีย์โวก้าแบบวิธีฝังกลบ 4 จุดใส่จุดละ 2-3 กำมือ ต้นโกโก้แข็งแรงดี แตกยอดได้ดี แมลงไม่ค่อยรบกวน เมื่อต้นแข็งแรง ยังไม่เจอเรื่องโรคเชื้อรา ตรงที่ใส่ปุ๋ยไปเราจะสังเกตเห็นว่าดินจะร่วนซุย เพราะปกติที่นี่เป็นดินลูกรัง และแข็งกระด้าง ไม่ซับน้ำ และปุ๋ย ผลผลิตจึงตกต่ำ การใส่ปุ๋ยโวก้ากับต้นโกโก้ใช้ประมาณ 3 เดือนต่อครั้งช่วงติดดอกออกผล จะใส่เพิ่มขึ้นเพราะต้องการให้ผลผลิตลูกใหญ่ น้ำหนักดี การติดผลดี น้ำหนักลูกโกโก้จะอยู่ที่ 8 ขีด/ผล ส่วนเมล็ดข้างในของโกโก้ มีคุณภาพ มีความสมบูรณ์ เม็ดใหญ่ ตึง เม็ดไม่ลีบ เนื้อเยอะได้เกรดดี ซึ่งเราไม่ได้ใช้ปุ๋ยเคมีเลย ใส่แค่ปุ๋ยอินทรีย์โวก้า มีธาตุอาหารครบ เมื่อก่อนเราก็ไม่ได้เช็ค pH ดิน เพราะว่าดินมีลักษณะเป็นลูกรัง
เปรียบเทียบการให้ผลผลิตโกโก้ที่ใช้ปุ๋ยอินทรีย์โวก้าแล้ว กับการปลูก โกโก้ของสมาชิกใน จังหวัดบึงกาฬที่ใช้ปุ๋ยทั่วไป ต้องใช้ผลโกโก้ 3-4 ผล ถึงจะได้น้ำหนัก 1 กิโลกรัม แต่ถ้านำปุ๋ย อินทรีย์โวก้าผสมร่วมกับปุ๋ยเคมี และใส่แต่ละช่วงของพืชได้จะดีมาก และได้ผลผลิตเพิ่มขึ้นชัดเจน แต่ต้นทุนอาจจะสูงบ้างเพราะปุ๋ยเคมีช่วงนี้ราคาแพง”
ในระยะเวลาอันใกล้กำลังจะทดลองใช้ปุ๋ยอินทรีย์โวก้ากับมะเขือเทศและข้าวโพดฝักอ่อน พอเกี่ยวข้าวออกก็จะปลูกมะเขือเทศหลังนาทันที ซึ่งสมาชิกที่นี่ส่วนใหญ่ก็จะปลูกมะเขือเทศหลังเก็บเกี่ยวข้าวอยู่แล้ว และส่งให้โครงการหลวงไปผลิตน้ำมะเขือเทศ
“คนที่ปลูกพืชต้องการใช้ปุ๋ยอินทรีย์คืออยากให้เปิดใจลองใช้ปุ๋ยอินทรีย์โวก้า ดินดี เพิ่มผลผลิต เพิ่มเงินในกระเป๋าได้มากขึ้นจริงๆ” คุณหมอตุ้มฝากทิ้งท้าย